ตามที่ จังหวัดสงขลา ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ระหว่างวันที่ 7-15 ตุลาคม 2567 โดยใช้สนามกีฬาติณสูลานนท์ จัดการแข่งขัน
ล่าสุด สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ส่งเจ้าหน้าที่ ฝ่ายกิจกรรมและจัดการแข่งขัน รวมถึงทีมงานของฝ่ายทีมชาติ ร่วมให้คำแนะนำอย่างละเอียด กับตัวแทนจังหวัดสงขลา อาทิ เรื่องสนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม โรงแรมที่พัก และสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมงานด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ทางจังหวัดสงขลาได้มีเวลาปรับปรุงและเตรียมพร้อม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน การจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ International ‘A’ Match ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ เอเอฟซี
โดยการแนะนำในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สมาคมฯ ได้ลงรายละเอียดถึงข้อกำหนด การจัดการแข่งขัน ฟุตบอลระดับนานาชาติ International ‘A’ Match ตามหัวข้อดังนี้
– สนามแข่งขัน ห้องปฏิบัติการ และสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำของไทยลีก หรือ เอเอฟซี (เนื่องจากเป็นทัวร์นาเมนต์ 4 ทีม จะต้องมีสนามซ้อมอย่างน้อย 2 สนาม และ ห้องแต่งตัวของสนามแข่งขันอีก 4 ห้อง)
– ไฟส่องสว่างสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐาน
– สนามซ้อมที่ได้มาตรฐาน
– ไฟส่องสว่างสนามซ้อม ที่ได้มาตรฐาน
– โรงแรม ในระดับ 4-5 ดาว และเพียงพอต่อการรองรับ บุคลากรในส่วนต่างๆ ทั้งในเรื่องของทีมแข่งขัน, คณะผู้ตัดสิน และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน
– อาหารนานาชาติ
– การเดินทางจากสนามบินนานาชาติ และสนามบินในประเทศ ที่ไม่ได้อยู่ห่างเกินไป
– บุคลากรจัดการแข่งขัน ต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน
โดยข้อกำหนดต่างๆ ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อฟุตบอลไทย เพราะถือเป็นการยกระดับ และปรับปรุง สาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามแข่งขัน สนามซ้อม ให้กับสนามกีฬาจังหวัด
ซึ่งส่งผลต่ออนาคตที่ประเทศไทยจะมีสนามที่ได้มาตรฐานนานาชาติ ตามที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ระบุไว้มากขึ้น
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ซึ่งตรงกับฟีฟ่าเดย์ เดือนตุลาคม จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-15 ตุลาคม 2567 โดยมี 4 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน ประกอบด้วย ทีมชาติซีเรีย อันดับ 93 ของโลก, ทีมชาติไทย อันดับ 101 ของโลก, ทีมชาติทาจิกิสถาน อันดับ 103 ของโลก และ ทีมชาติฟิลิปปินส์ อันดับ 147 ของโลก
โดยการแข่งขันในรูปแบบน็อคเอาต์ รอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศ แต่ละชาติจะแข่งรวม 2 นัด ทุกนัดจะเป็นการแข่งขันในระดับ International ‘A’ Match นำผลการแข่งขันไปคำนวณในการจัดฟีฟ่าแรงกิ้ง