“โค้ชเฮง” เผย 5 ปัจจัย ทีมชาติไทย ชนะญี่ปุ่น หรือใครก็ได้ หลังถูกเชิญไปอุ่นเครื่องเตรียมเอเชียนคัพ 2023

วันที่ 20 ตุลาคม 2566 “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคของสโมสรชลบุรี เอฟซี เผยมุมมองถึงทีมชาติไทย อันดับ 112 ของโลก เบอร์ 21 ของเอเชีย หลังได้รับเชิญให้ไปอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติญี่ปุ่น อันดับ 19 ของโลก และเบอร์ 1 ของเอเชีย ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อเตรียมทีมสู้ศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย วันที่ 12 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ปีหน้า

โค้ชเฮง ระบุว่า ทีมชาติไทย ได้ประโยชน์แน่นอนจากเกมอุ่นเครื่องกับ ญี่ปุ่น ในวันขึ้นปีใหม่ 2567 หลังจาก “ซามูไรบลู” ยกระดับขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำของโลกแล้ว ด้วยการเอาชนะทีมระดับโลกได้ ทั้ง เยอรมนี, สเปน, ตุรกี และอื่นๆ

ประธานเทคนิค “ฉลามชล” ยังให้ข้อคิดว่าในอนาคต ทีมชาติไทย สามารถชนะ ญี่ปุ่น หรือทีมใดก็ได้ในโลกนี้ แต่ต้องมี 5 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ ความภาคภูมิใจ, ความมุ่งมั่น, ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, ความสุภาพ ความมีมารยาท และ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการสร้างแนวทางหรือตัวตนที่ชัดเจน จึงพัฒนาสู่ระดับหัวแถวของเอเชียไม่ได้

(ชมคลิป มุมมอง “โค้ชเฮง” ถึง “ทีมชาติไทย” หลังได้อุ่นเครื่องกับ “ญี่ปุ่น” ที่นี่)

โค้ชเฮง กล่าวว่า “เราจะไปอุ่นเครื่องกับเขาเนี่ย เราไม่ใช่แค่ไปหาประสบการณ์ หรือไปวัดขีดความสามารถของเรา จริงๆ แล้วเราสามารถที่จะเอาชนะเขาก็ได้ แต่จะชนะเขาเนี่ยเราต้องรู้ว่าจะหยุดวิธีการเล่นของเขาอย่างไร และเราต้องเล่นให้เหมือนเขา”

“การเล่นให้เหมือนเขาเนี่ย เราต้องรู้ว่าถ้าไปแข่งกับ ญี่ปุ่น แล้วเรากลับบ้านมาโดยไม่รู้ว่าต้องปรับปรุงอะไร ก็ไม่มีประโยชน์ จริงๆ ประเทศไทยเนี่ย ไปแข่งกับเขาบอกตรงๆ มันแพ้อยู่แล้วครับ เพราะว่าเราไม่มีตัวตนไง ถ้าเราถามว่าตัวตนของทีมชาติไทยเรามีไหม ผมบอกตรงๆ ว่าเราไม่มีครับ เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างขึ้นมา”

“ตัวอย่าง ญี่ปุ่น เขามีตัวตนของทีมชาติเขาชัดเจน ง่ายๆ เลยคำว่า ความภาคภูมิใจ, ความมุ่งมั่น, ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน, ความสุภาพ ความมีมารยาท และอันสุดท้าย ความรับผิดชอบ ความมีวินัย อันนี้คือวงจรของทีมชาติไง ถ้าเราเอามาประยุกต์ใช้ในแบบของเรา ไม่ว่าจะเป็น ไทยแลนด์เวย์ หรือที่สำคัญคือเรามีตัวตนของประเทศไทยไหม”

“ถ้าเรามีตัวตน แม้เราอาจจะไม่ชนะญี่ปุ่นวันนี้ เราอาจจะไปชนะทีมอะไรก็ได้ในอาเซียน ในเอเชีย หรือทีมอื่นในอนาคตได้ เพียงแต่ว่าเรามีแนวทางการเล่นของเราหรือยัง เรามีตัวตนที่เป็นทีมชาติไทยไหม ตอนนี้มันยังไม่มีครับ”

“เพราะฉะนั้นพอมันไม่มีเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ความรับผิดชอบ, ความสุภาพ ความมีมารยาท, ความมุ่งมั่น, ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความภาคภูมิใจในการเป็นทีมชาติ เราปลูกฝังพวกเขาไหม ผมว่ามันยังไม่มีนะครับ นี่คือตัวตนที่เราต้องสร้างก่อน เราอาจจะไม่ชนะ ญี่ปุ่น ในวันนี้ แต่ในอนาคตเราอาจจะชนะได้ หรือสามารถชนะใครก็ได้ ถ้าเรามีตัวตน แค่นั้นเอง”

“เราต้องมีตัวตน ไม่ใช่ว่าเราแข่งเสร็จโบกมือกลับบ้าน แล้วเดือนหน้าปีหน้าก็ไปแข่งต่างประเทศกันใหม่เหมือนสมัยก่อน เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ว่าเราจะสร้างแนวทางการเล่นที่เป็นตัวตนของเราได้ไหม ใครจะทำแค่นั้น”

ทั้งนี้ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 จะถ่ายทอดสดฟุตบอลอุ่นเครื่องระหว่าง ทีมชาติญี่ปุ่น กับ ทีมชาติไทย ในวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยรอการยืนยันเวลาแข่งขันอีกครั้ง