“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” รวมพลังเอาชนะ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” 2-1 คว้าแชมป์ “เอฟเอ คัพ” สมัยที่ 13 ในประวัติศาสตร์ ได้สำเร็จ
วันที่ 25 พ.ค. 67 การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2023-24 นัดชิงชนะเลิศ คู่นี้เป็นการเจอกันระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทีม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมชาวสเปน นำทีมลงสนามพบกับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี เอริก เทน ฮาก เทรนเนอร์ชาวเนเธอร์แลนด์ กุมบังเหียน โดยรายหลังอาจเป็นเกมสุดท้ายที่ได้คุมทีม หลังมีข่าวเตรียมโดนปลดไม่ว่าจะได้แชมป์หรือไม่
ย้อนกลับไปรอบรองชนะเลิศ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 1-0 ขณะที่ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ “ช้างกระทืบโรง” โคเวนทรี ซิตี้ 4-2 หลังเสมอในเวลา 3-3
เปิดฉากเริ่มเกม นาทีที่ 30 “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากความผิดของของคู่แข่ง และเป็น อเลฮานโดร การ์นาโช ยิงเข้าประตูไปไม่เหลือซาก
นาทีที่ 39 แมนยูฯ ขยับหนีห่าง ทัพเรือใบสีฟ้า ออกไปเป็น 2-0 จากจังหวะทำเกมสวนกลับเร็ว และเป็น ค็อบบี ไมนู ได้ยิงได้ในกรอบเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 87 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูไล่มาเป็น 1-2 จาก เฌเรมี โดกู ยิงยัดเสาแรกผ่านมือ อ็องเดร โอนานา เข้าประตูไปง่ายๆ
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขัน “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 13 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้สำเร็จ